แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แสดงบทความทั้งหมด

ประโยคภาษาจีน



ประโยคภาษาจีน 

👐👐👐


赞成这个建议的人请签名。
Zànchéng zhège jiànyì de rén qǐng qiānmíng.
ท่านที่เห็นด้วยกับข้อเสนอ ขอให้กรุณาลงนามด้วย


他们当面夸奖他。
Tāmen dāngmiàn kuājiǎng tā.
พวกเขายกย่องเขาต่อหน้าเขา

当面 
Dāngmiàn 
ต่อหน้า
ต่อหน้าต่อตา
พูดต่อหน้าให้ชัดแจ้ง



他当面说得好听,背后会给你使绊儿。
Tā dāngmiàn shuō de hǎotīng, bèihòu huì gěi nǐ shǐ bànr.
ต่อหน้าพูดดี แต่ลับหลังก็ลอบกัดคุณ

使绊儿
Shǐ bànr 
คำอุปมาอุปมัย ว่าใช้วิธีที่ไม่เหมาะสมในการลอบกัดผู้อื่นอย่างลับๆ


别人有困难当然应该帮助。
Biérén yǒu kùnnán dāngrán yīnggāi bāngzhù.
คนอื่นมีอุปสรรคก็ย่อมจะต้องช่วยเหลือเขา


我一听这话,当下就愣住了。
Wǒ yī tīng zhè huà, dāngxià jiù lèng zhùle.
เมื่อฉันได้ฟังคำพูดดังกล่าวนี้แล้วก็ตกตะลึงทันที

当下 
Dāngxià 
ในขณะนั้น
ฉับพลันทันที


他的嗓子倒了。
Tā de sǎngzi dǎole.
เสียงของเขาแหบแห้งไป

倒 Dǎo 
(เสียงขับร้องของนักแสดง)แผ่วเบาหรือแหบแห้ง


倒在床上就睡着了。
Dǎo zài chuángshàng jiù shuìzhele.
พอล้มตัวลงบนเตียงก็หลับไป

倒 Dǎo  
ล้ม 
ล้มลงไป


谎言掩盖不了事实。
Huǎngyán yǎngài bùliǎo shìshí.
คำโกหกไม่อาจจะกลบเกลื่อนความเป็นจริงได้


这东西吃多了容易倒胃口。
Zhè dōngxī chī duōle róngyì dǎo wèikǒu.
ของสิ่งนี้รับประทานมากเกินไป จะเกิดการเอียนได้ง่าย

倒胃口
Dǎo wèikǒu 
เอียน
เกิดอาการเอียน


就那几句话,翻来覆去讲了好几遍,怎么不叫听的人倒胃口?
Jiù nà jǐ jù huà, fānláifùqù jiǎngle hǎojǐ biàn, zěnme bù jiào tīng de rén dǎo wèikǒu?
คำพูดแค่ไม่กี่คำนี้ พูดกลับไปกลับมาตั้งหลายครั้ง ก็แล้วทำไมคนฟังเขาจะไม่เอียนหละ


他痒得几乎忍不住了。
Tā yǎng dé jīhū rěn bù zhùle.
เขาคันจนแทบจะกลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว


只要大家肯动脑筋,完成任何的道道儿就多了。
Zhǐyào dàjiā kěn dòng nǎojīn, wánchéng rènhé de dàodaor jiù duōle.
ขอเพียงแต่ให้เรายอมใช้สมองหน่อยเท่านั้นแหละ
 วิธีการที่จะดำเนินการให้ภารกิจบรรลุผลสำเร็จก็จะมีมากทีเดียว

道道儿
Dàodaor 
วิธีการ



跟不三不四的人鬼混。
Gēn bù sān bù sì de rén guǐhùn.
เกลือกกลั้วกับพวกกเฬวราก

不三不四的人
Bù sān bù sì de rén
พวกไม่เป็นโล้เป็นพาย 
พวกนอกลู่นอกทาง
พวกกเฬวราก


得了,别说了。
Déle, bié shuōle.
พอเถอะ อย่าพูดอีกเลย

得  
ใช้ในขณะที่จบการสนทนา มีความหมายแสดงว่าเห็นด้วยหรือห้าม



得不到一点消息。
Dé bù dào yīdiǎn xiāoxī.
ไม่ได้ข่าวเลยแม้แต่น้อย


会场里人都坐满了,没有地方了。
Huìchǎng lǐ rén dōu zuò mǎnle, méiyǒu dìfāngle.
ในห้องประชุมมีคนนั่งเต็มไปหมดแล้ว ไม่มีที่ว่างแล้ว


我这个地方痛。
Wǒ zhège dìfāng tòng.
ฉันรู้สึกปวดที่ตรงนี้


这话有对的地方,也有不对的地方。
Zhè huà yǒu duì dì dìfāng, yěyǒu bùduì dì dìfāng.
คำพูดนี้มีบางแห่งก็ถูก และก็มีบางแห่งที่ไม่ถูก


你地头儿熟,联系起来方便。
Nǐ dìtóur shú, liánxì qǐlái fāngbiàn.
คุณชำนาญท้องที่ ดังนั้นเมื่อติดต่อก็คงจะสะดวกขึ้น

มาก

地头儿 
Dìtóur 
ท้องที่ 
สถานที่นั้น ท้องที่นั้น


吃点东西在走。
Chī diǎn dōngxī zài zǒu.
กินอะไรเสียหน่อยค่อยไป


他是个聪明人,一点就明白来了。
Tā shìgè cōngmíng rén, yīdiǎn jiù míngbái láile.
เขาเป็นคนฉลาด พอชี้แนะก็เข้าใจ

点 
Diǎn 
ชี้แนะ
ให้คติ
ให้ข้อคิด


他听他说得有道理,不由得连连点头。
Tā tīng tā shuō dé yǒu dàolǐ, bùyóudé liánlián diǎntóu.
เขาฟังเขาพูดมีเหตุผลมาก ก็เลยต้องพนักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า

点头
Diǎntóu 
พยักหน้า
ผงกหัว


他格格地笑,越说越起劲。
Tā gégé de xiào, yuè shuō yuè qǐjìng.
เขาหัวเราะก๊าก ๆยิ่งพูดก็ยิ่งมัน


他们两人说的话对不上碴儿。
Tāmen liǎng rén shuō dehuà duì bù shàng chár.
เขาทั้งสองพูดไม่ตรงกัน


对碴儿
 Duì chár 
ตรงกัน 
สอดคล้องกัน



你和孩子讲话要讲得通俗些。
Nǐ hé háizi jiǎnghuà yào jiǎng dé tōngsú xiē.
คุณพูดกับเด็กจะต้องพูดภาษาง่ายๆ

通俗 
Tōngsú 
เรียบๆ 
ง่ายๆ 
เรียบๆอ่านเข้าใจง่าย



他见势头不对,转身就走。
Tā jiàn shìtóu bùduì, zhuǎnshēn jiù zǒu.
พอเขาเห็นท่าไม่ได้การแล้ว เขาก็กลับทันที

势头 
Shìtóu 
ลักษณะ 
รูปการณ์ 
สถานการณ์



他们俩一向很对劲。
Tāmen liǎ yīxiàng hěn duìjìn.
เขาทั้งสองคนนิสัยถูกคอกันมาโดยตลอด

对劲 
Duìjìn 
ถูกรสนิยมกัน
ถูกคอกัน



他家就在我家对面。
Tā jiā jiù zài wǒjiā duìmiàn.
บ้านของเขาอยู่ตรงข้ามบ้านของฉัน


他的脸色不对头,恐怕是病了。
Tā de liǎnsè bù duìtóu, kǒngpà shì bìngle.
สีหน้าของเขาไม่ดีเลย กลัวว่าจะไม่สบาย

对头 
Duìtóu 
ปรกติ(ส่วนมากจะใช้ในรูปปฏิเสธ)



两个人脾气不对头,处不好。
Liǎng gèrén píqì bù duìtóu, chù bù hǎo.
สองคนนิสัยเข้ากันไม่ได้ จึงอยู่ด้วยกันไม่ได้
对头 
Duìtóu 
ถูกกัน เข้ากันได้(ส่วนมากจะใช้ในรูปปฏิเสธ)



不忘自己的出身。
Bù wàng zìjǐ de chūshēn.
ไม่ลืมกำพืดเดิมของตน


他有对象了。
Tā yǒu duìxiàngle.
เขามีคู่แล้ว เขามีคนรักแล้ว

对象 
Duìxiàng 
คู่ 
คู่รัก 
คนรัก



他这样做,太过放肆了。
Tā zhèyàng zuò, tàiguò fàngsìle.
เขาทำอย่างนี้รู้สึกว่าจะกำเริบเสิบสานมากเกินไป
放肆 
Fàngsì 
กำเริบเสิบสาน;
พยศ



不要挡住道路。
Bùyào dǎngzhù dàolù.
อย่ายืนกีดขวางทางเดิน



和事实对证一下,看看是不是又不符合的地方。
Hé shìshí duì zhèng yīxià, kàn kàn shì bùshì yòu bù fúhé dì dìfāng.
ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดูว่ามีอะไรที่ไม่สอดคล้องกัน
对证 
Duì zhèng 
ตรวจสอบ



他顿了一下,又接着往下说。
Tā dùnle yīxià, yòu jiēzhe wǎng xià shuō.
เขาอึ้งไปพักหนึ่งแล้วก็พูดต่อไป
  
Dùn  
หยุดไปพักหนึ่ง


💦💦💦



การบอกเวลาเป็นภาษาจีน


        
 ถ้าคุณโดนถามว่า   "ตอนนี้กี่โมงแล้ว"   ไม่ว่าจะเป็นการถูกถามด้วยภาษาไทยหรือภาษาจีน แต่ตัวคุณเองก็ไม่รู้จะตอบกลับไปเป็นภาษาจีนยังไง เราไปดู การบอกเวลาเป็นภาษาจีนกันดีกว่าค่ะ




 รูปภาพจาก pixabay.com

        

คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อนเลย ก็คือ

点  
Diǎn 
นาฬิกา; 
โมง บอกหน่วยชั่วโมงมาจากคำเต็ม 
点钟  
Diǎn zhōng

分  
Fēn 
นาที  
มาจากคำเต็ม  
分钟   
Fēn zhōng


秒  
Miǎo 
วินาที

差  
Chà 
ขาด ;ขาดอีก

半  
Bàn 
ครึ่ง

一刻   
Yī kè 
15นาที


  * ครึ่งชั่วโมง จะใช้คำว่า 半  Bàn ไม่ใช้  两刻 Liǎng kè


      ไปดูการบอกเวลาข้างล่างกันค่ะ เพราะถ้าจับ

ประเด็นตรงนี้ได้ การบอกเวลาก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะ

ต้องกังวลอีกต่อไป




2:00     两点
                  Liǎng diǎn

ไม่ว่าจะเป็น ช่วงบ่ายหรือ ช่วงตีสอง 
ก็แค่เติมช่วงเวลาลงไปว่าเป็นช่วงไหน

     ช่วงบ่าย         หรือ         ช่วงตีสอง

下午两点              凌晨两点

       Xià wǔ liǎng diǎn     Líng chén liǎng diǎn


 💛💛💛💛💛



6:05  六点零五分
            Liù diǎn líng wǔ fēn

หากหน่วยนาทีน้อยกว่า 10 
จะต้องเติมคำว่า 零 (ling) ที่แปลว่า ศูนย์


💛💛💛💛💛


 8:15
จะพูดได้ 2 แบบคือ

   

แบบที่หนึ่ง: 八点十五分 

             
                 Bā diǎn shí wǔ fēn






แบบที่สอง: 八点一刻  
               Bā diǎn yī kè

    *一刻  Yī kè แปลว่า 15นาที
                   * เมื่อมี 一刻 Yī kè แล้วก็ไม่ต้องมีการเติม 分 Fēnไว้ข้างหลัง


💛💛💛💛



10:30
จะพูดได้สองแบบคือ

แบบที่หนึ่ง :  十点三十分        
                          Shí diǎn sān shí fēn  


แบบที่สอง :十点半 
                     Shí diǎn bàn


    *半  Bàn  ครึ่ง



💛💛💛


11:45

จะพูดได้ 3 แบบคือ

 แบบที่หนึ่ง :十一点四十五分  
                                Shí yī diǎn sì shí wǔ fēn               


แบบที่สอง :十一点三刻  
                           Shí yī diǎn sān kè  


แบบที่สาม: 差一刻十二点
                           Chà yī kè shí èr diǎn
                 

 * 一刻
Yī kè 
15นาที                      
                                                                                           
 * 差 
Chà 
ขาด ;ขาดอีก
                                                                                          
*三刻 
Sān kè ก็ต้องเป็น 45นาที





💛💛💛




1:50
จะพูดได้ 2 แบบคือ


แบบที่หนึ่ง : 一点五十分         
                  Yī diǎn wǔ shí fēn      



 แบบที่สอง : 差十分两点
                         Chà shí fēn liǎng diǎn

   * 差 Chà ขาด ;ขาดอีก




💛💛💛💛💛



 1:55
จะพูดได้ 2 แบบคือ


แบบที่หนึ่ง : 一点五十五分      
                  Yī diǎn wǔ shí wǔ fēn   

แบบที่สอง: 差五分两点
                           Chà wǔ fēn liǎng diǎn
                                                                             
* 差  Chà  ขาด ;ขาดอีก





 💛💛💛💛💛



ประโยคคำถามที่ใช้ถามเวลา

现在几点?
Xiàn zài jǐ diǎn?
ตอนนี้กี่โมงแล้ว



你几点上课?
Nǐ jǐ diǎn shàng kè?
คุณไปเรียนกี่โมง



你几点上班?
Nǐ jǐ diǎn shàng bān?
คุณไปทำงานกี่โมง



你几点到家?
Nǐ jǐ diǎn dào jiā?
คุณจะถึงบ้านกี่โมง



你几点到办公室?
Nǐ jǐ diǎn dào bàn gōng shì?

คุณมาถึงออฟฟิศกี่โมง




คำศัพท์เพิ่มเติมที่บอกเวลา



凌晨 
Líng chén 
คือ ก่อนรุ่งเช้าจนพระอาทิตย์เริ่มขึ้น  เวลา 01:00-06:00


早上 
Zǎo shang  
คือ ช่วงเวลาเช้า พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งหมายถึงเวลาประมาณ 05:00-09:00  


上午
 Shàng  
คือ ช่วงสาย เวลา 09:00-11:00 


中午
 Zhōng  
คือ เที่ยงวัน ใช่วงเวลาที่ใช้ประมาณ 11:00-13:00


下午
 Xià  
คือ ช่วงบ่าย ใช้ได้ตั้งแต่บ่ายโมงยันพระอาทิตย์ตก ก็ประมาณ 13:00-19:00


晚上 
Wǎn shàng  
คือ ตอนค่ำพระอาทิตย์ตกแล้ว เวลา 19:00 -24:00




  💦💦💦



Basic Expressions for Dialogues---Inquiries 询问用语

  询问用语 xúnwèn yòngyǔ Inquiries 👇👇👇 A: 你怎么上学? nǐ zěnme shàngxué? How do you go to school? B: 我通常步行上学。有时候骑自行车。 wǒ tōngcháng bùxíng shà...

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม